Monitor ในที่นี้หมายถึงการฟัง การตรวจสอบผลงานของเรา แน่นอนว่าจะขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นงาน Recording ,Mixing ,Mastering ก็ต้องมีอุปกรณ์สำหรับฟังผลงานของเรา
Headphones
Home Studio ขนาดเล็ก เช่น ทำเพลงในห้องนอน อาจจะใช้เสียงดังไม่ได้ หูฟังจึงเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ หรือแม้แต่ขึ้นตอนการบันทึกเสียงร้องจำเป็นต้องใช้หูฟัง เพื่อฟังเสียงดนตรีพร้อมกับอัดเสียงร้องไปด้วย ประโยชน์อีกอย่างนึงของหูฟังคือ การเช็คในรายละเอียดของเสียงที่เราต้องการฟังแบบเจาะจง เพื่อให้ได้ยินรายละเอียดชัดมากกว่าฟังจากลำโพงมอนิเตอร์
เนื่องจากหูฟังที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาดเยอะแยะไปหมด แบบไหนล่ะที่เหมาะกับการ Recording ,Mixing ? แน่นอนครับ ก็ต้องเป็นหูฟังมอนิเตอร์โดยเฉพาะ ให้ดูข้างกล่องหรือสเป็คที่แจ้งไว้ ไม่แนะนำให้เอาหูฟังแบบไฮไฟ (สำหรับฟังเพลงทั่วๆไป) เนื่องจากหูฟังแบบไฮไฟ ถูกออกแบบมาสำหรับดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งอาจจะมีการปรุงแต่เสียงให้ไพเราะน่าฟังมากขึ้น เช่น เบสเยอะกว่าปกติ เป็นต้น นั่นจะทำให้เราทำงานยากเพราะเราโดนหูฟังหลอก แต่หูฟังมอนิเตอร์จะถ่ายทอดเสียงที่ flat ไม่ปรุงแต่ง เพิ่มเติม ทำให้เราสามารถที่จะฟังเสียงจริงๆของงานของเราที่ทำอยู่ ได้อย่างแม่นยำ
หูฟัง ยี่ห้อไหน รุ่นไหน ดี? คำตอบคือ สมัยนี้มีเยอะมาก เลือกจากยี่ห้อที่มีชื่อเสียง และงบประมาณในกระเป๋าของเราได้เลยครับ แต่เน้นว่าต้องเป็นหูฟังมอนิเตอร์โดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น Audio-Technica ATH-M50x ,AKG K240 ,AKG Pro Audio K702 ,Beyerdynamic DT770 Pro ,Beyerdynamic DT990 Pro ,Focal Spirit Professional และอื่นๆอีกมากมาย แนะนำให้ไปลองด้วยตัวเองว่าชอบตัวไหนครับ และแนะนำว่าควรเป็นชนิด Over-ear (ครอบหู) จะดีที่สุดครับ
Monitor Speakers
อีกขั้นนึงของชาว Home Studio คือการซื้อลำโพงมอนิเตอร์มาใช้งาน (ไม่พูดถึงระดับมืออาชีพ เพราะต้องมีใช้แน่นอน) เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก เป็น step ถัดมาจากการใช้แค่หูฟังมอนิเตอร์เท่านั้น ลำโพงมอนิเตอร์ในยุคสมัยนี้มีเยอะมาก เยอะจนเลือกไม่ถูก แนะนำให้ไปลองฟังที่ร้านตัวแทนจำหน่าย ชอบเสียงตัวไหนก็จัดมาเลยครับ ยกตัวอย่าง ยี่ห้อ/รุ่น ที่ชาว Home Studio พอจะเอื้อมถึง Mackie CR4 ,Presonus Eris E5 ,YAMAHA HS5 ,KRK RP5 G3 ,M-Audio BX5 D2 ,Focal Alpha 50
